SNIPER CDP (Customer Data Platform) เป็นเครื่องมือทางการตลาดช่วยให้แบรนด์เข้าใจลูกค้าได้มากที่สุด ทั้งยังสามารถรวบรวมข้อมูลพร้อมกันในทุกๆ platform เข้าไว้ด้วยกัน และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ออกแบบทำการตลาดแบ่งกลุ่มลูกค้าอัตโนมัติและทำการตลาดกลับไปยังลูกค้าแต่ละบุคคลได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ Sniper CDP จึงเป็นแพลทฟอร์มที่ช่วยให้การทำงานด้านการตลาดมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยคู่มือการใช้งานมีดังนี้

แพลทฟอร์ม SNIPER CDP

SNIPER CDP (Customer Data Platform)เป็นเครื่องมือทางการตลาดช่วยให้แบรนด์เข้าใจลูกค้าได้มากที่สุดทั้งยังสามารถรวบรวมข้อมูลพร้อมกันในทุกๆ platform เข้าไว้ด้วยกันและนําข้อมูลมาวิเคราะห์ออกแบบทําการตลาดแบ

หน้าแรก

เมื่อทำการเข้าสู่ระบบแสดงผลเป็นหน้าแรก ซึ่งประกอบด้วยสื่อการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับ SNIPER CDP ทั้งหมดและอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ให้กับทางแบรนด์สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้

ภาพรวม

ผู้ใช้งานกดแถบเมนูด้านซ้าย “ภาพรวม” แสดงรายงานภาพรวมทั้งหมด ตามช่วงวันเวลาที่ต้องการ แสดงข้อมูลแยกย่อย รายช่องทาง ลูกค้า แคมเปญ กลุ่มลูกค้า สินค้า ต้นทุนโฆษณา และรายได้ ผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูลเชิงลึกข

Apollos

ผู้ใช้งานกดเมนูแถบซ้าย “Apollos” แสดงหน้าจอ Apollos ผู้ใช้งานสามารถเริ่มสร้างการทำงานอัตโนมัติอย่างรวดเร็วได้ โดยระบบมีรูปแบบที่แนะนำ 4 รูปแบบ ได้แก่  ตัวอย่าง รูปแบบเคยซื้อมากกว่า 3 พัน/บิล กด “

แคมเปญ

ผู้ใช้งานกดเมนูแถบซ้าย “แคมเปญ” แสดงหน้าจอการสร้างแคมเปญ ในหน้าแคมเปญ ผู้ใช้งานกด (A) เพื่อสร้างแคมเปญเพิ่มเติม ปรากฏหน้าจอสร้างแคมเปญ ขั้นตอนการสร้างแคมเปญ ผู้ใช้งานเลือกกลุ่มลูกค้า โดยกดที่ (ฺB) หน้

แอ็กชัน

ผู้ใช้งานกดแถบเมนูด้านซ้าย “แอ็กชัน” แสดงรายการแอ็กชันที่เคยสร้างไว้ก่อนหน้า หากต้องการเพิ่มแอ็กชัน ทำได้โดยกด “สร้างแอ็กชัน” แสดงหน้าจอการสร้างแอกชัน ผู้ใช้งานกรอกรายละเอียด และทำการ “บันทึก” แอ็กชัน

กลุ่มลูกค้า

ผู้ใช้งานกดแถบเมนูด้านซ้าย “กลุ่มลูกค้า” แสดงผลกลุ่มลูกค้าที่มีการสร้างไว้ หากผู้ใช้ต้องการเพิ่ม/สร้าง กลุ่มลูกค้า สามารถกด “สร้าง” ทำการกรอกรายละเอียด กรณีที่ผู้ใช้งานต้องการระบุกลุ่มลูกค้าแบบมีเงื่อ

รายชื่อลูกค้า

ผู้ใช้งานกดแถบเมนูด้านซ้าย “รายชื่อลูกค้า” แสดงผลรายชื่อลูกค้าที่มีการสร้างไว้ ผู้ใช้งานสามารถกดแถบเมนูด้านขวาบน มี 4 วิธีการใช้งาน 7.1 การส่งออก คือการส่งออกข้อมูลรายชื่อลูกค้า Download ออกมาเป็นไฟล์

สินค้าทั้งหมด

ผู้ใช้งานสามารถกดแถบเมนูด้านซ้าย “สินค้าทั้งหมด” แสดงสินค้าที่มีอยู่ในระบบทั้งหมด หากผู้ใช้ต้องการเพิ่ม/สร้าง สินค้า สามารถกด “สร้าง” ทำการกรอกรายละเอียด และกด “บันทึก” หรือกด “นำเข้าสินค้า” โดยก

รายงาน

แบ่งออกเป็น 4 รายงาน ดังนี้ 9.1 รายงานกลุ่มลูกค้า เป็นการแสดงผลของกลุ่มลูกค้าทั้งหมด และสามารถกดระบุช่วงเวลา วันที่ ตามที่ผู้ใช้งานต้องการได้ หากผู้ใช้งานต้องการ Download ข้อมูล สามารถทำได้โดยการกด “น

PDPA

ผู้ใช้งานกดแถบเมนูด้านซ้าย “PDPA” แสดงหน้า PDPA (พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)  ผู้ใช้งานสามารถสร้างเทมเพลต นโยบาย ส่วนบุคคลตาม PDPA ของแบรนด์ เพื่อส่งให้ลูกค้าสําหรับการทําการตลาดต่อไปได้ โดยก

การตั้งค่า

ตั้งค่าการเชื่อมต่อ การเชื่อมต่อแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ  รูปแบบที่ 1 คือ API Connect การใช้ API ในการเชื่อมต่อนั้น ตั้งค่าเพียงครั้งเดียวข้อมูลสามารถอัพเดทแบบเรียลไทม์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำซ้ำ โดยขั้นตอนกา

คำถามที่พบบ่อย

คำตอบ : ยอดของการกดหรือคลิกลิงก์ที่นำส่งไปให้ลูกค้า

คำตอบ : ยอดของการซื้อสินค้าจากลิงก์ที่ส่งไปให้ลูกค้า

คำตอบ : ต้นทุนของการส่งข้อความหาลูกค้าแต่ละช่องทาง

คำตอบ : ยอดขายที่ได้กลับมาจากการสร้างแคมเปญ

คำตอบ : การส่งแคมเปญไปหาลูกค้าผ่านรูปแบบต่างๆ เช่น SMS, E-Mail และ Line เป็นต้น

คำตอบ : ระบุเงื่อนไขเวลารอเพื่อดูผลการซื้อหรือการคลิกของลูกค้าเพื่อทำการส่งแอ็กชันในครั้งถัดไป

คำตอบ : สามารถทำได้ โดยดาวน์โหลดรายงาน ผ่านหน้ารายงานโดยไฟล์ที่ผู้ใช้ได้รับเป็นรูปแบบ .CSV

คำตอบ : ฟังก์ชันในการสร้างแคมเปญสำเร็จรูป แบบอัตโนมัติเพื่อความรวดเร็วและแม่นยำในการทำแคมเปญ

คำตอบ : หากลบกลุ่มลูกค้าแคมเปญที่เลือกกลุ่มลูกค้านั้นไว้จะหยุดทำงานทันที

คำตอบ : รายงานนี้ยอดขายที่เกิดจากการใช้เครื่องมือ CDP เท่านั้น

คำตอบ : สามารถแจ้งทีมพัฒนาเพิ่มเติมได้

คำตอบ : สามารถเพิ่มเติมข้อมูลที่ต้องการได้โดยติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Customer Support 

 

คำตอบ : การส่งแคมเปญไปหาลูกค้า 1 ครั้ง (ส่งแคมเปญตั้งแต่แอ็กชันแรกจนจบกระบวนการทั้งหมดของแอ็กชันหรือแคมเปญ) โดยไม่มีการส่งซ้ำใหม่อีกครั้ง 

คำตอบ : แอ็กชันอื่นๆที่เหลืออยู่ในแคมเปญจะยังคงทำงานปกติ มีเพียงเฉพาะแอ็กชันที่ถูกลบจะหยุดการทำงานทันที

คำตอบ : แคมเปญ One Time คือการให้แคมเปญทำงานแบบครั้งเดียว 

แคมเปญ Automation คือการให้แคมเปญทำงานตลอดระยะที่กำหนด โดยจะทำงานภายใต้เงื่อนไข ที่กำหนดไว้ในแต่ละแอ็กชันของแคมเปญนั้นๆ

คำตอบ : เมื่อกระบวนการลูกค้าผ่านไปยังแอ็กชันสุดท้ายของแคมเปญ ลูกค้าจะวนกลับมาที่แอ็กชันแรกของแคมเปญอีกครั้ง หากยังตรงกับเงื่อนไขกลุ่มลูกค้าที่เลือกอยู่ก็ใช้แคมเปญทำซ้ำอีกครั้ง 

คำตอบ : การไม่เพิ่มแอ็กชันในเครื่องหมาย + เป็นการสิ้นสุดกระบวนการแคมเปญ สามารถกดบันทึกให้แคมเปญเริ่มทำงานได้เลย

คำตอบ : จำเป็น หากไม่ทำการตั้งชื่อแคมเปญ ระบบไม่สามารถทำงานได้

คำตอบ : แอ็กชัน คือการกระทำที่อยู่ในแต่ละแคมเปญ ซึ่งเป็นการกำหนดว่าส่งข้อความอะไร ช่วงวันเวลาใด ไปหากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ โดยสามารถดูรายงานที่ละเอียดขึ้น รายงานแยกสถิติยอดซื้อ,ยอดคลิกของแต่ละแอ็กชันได้ที่หน้าแอ็กชัน หรือแก้ไขแต่ละแอ็กชันได้โดยผ่านเมนูแคมเปญ หรือเมนูแอ็กชันก็ได้

คำตอบ : การลบแอ็กชันต้องลบจากแอ้กชันล่างสุดขึ้นไปด้านบน ระบบไม่สามารถลบแอ็กชันตรงกลางของ Flow Campaign ได้

คำตอบ : วิธีการตรวจสอบเบื้องต้น

  1. เช็คกลุ่มลูกค้าที่เลือกมีจำนวนมากน้อยเพียงใด หากมีจำนวนน้อยอาจเป็นไปได้ว่าลูกค้าในกลุ่มนั้นๆ ยังไม่ตรงกับเงื่อนไขการเกิดแอ็กชัน 
  2. ตรวจสอบระยะเวลาแคมเปญ ว่าอยู่ในช่วงการเปิดแคมเปญหรือไม่ หากอยู่ในช่วงเวลาการเปิดแคมเปญให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ Customer Support

คำตอบ : การกำหนดระยะเวลาหลังจากที่ลูกค้าเข้ามาในเงื่อนไขนั้นๆ หรือกำหนดวันและเวลาการจัดส่งข้อความได้ เพื่อรอไปสู่แอ็กชันต่อๆ ไป

คำตอบ : ผู้ใช้งานสามารถใช้แบบฟอร์มที่ระบบมีให้ได้

คำตอบ : ผู้ใช้งานสามารถทำได้ทั้ง 2 รูปแบบ

คำตอบ : ควรมีชื่อสินค้, ราคา และรหัสสินค้า เนื่องจากระบบจะใช้ข้อมูลจากรหัสสินค้าเป็นหลัก

คำตอบ : ไม่จำกัด และไม่จำกัดจำนวนสินค้า

 

คำตอบ : ตาม Package ที่ลูกค้าใช้งาน

คำตอบ : ตาม Package ที่ลูกค้าใช้งาน

คำตอบ : ตาม Package ที่ลูกค้าใช้งาน

คำตอบ : สามารถตรวจสอบได้โดยเลือกดูจากรายชื่อลูกค้า