นักการตลาดหลายคนคงคุ้นเคยกับการทำการตลาดโดยการเน้นส่งโฆษณาถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีจำนวนมาก หรือกลุ่มที่มีเกณฑ์ที่จะมีกำลังซื้อสูง โดยคาดหวังว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด ทว่า ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงข้อมูล และข่าวสารผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น ส่งผลให้ฐานข้อมูลลูกค้ามีจำนวนมากและกว้างขึ้นตามไปด้วย การทำการตลาดแบบหว่านแห หรือการแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบเดิม ๆ จึงอาจไม่เพียงพอ หรือให้ผลลัพธ์ที่ไม่คุ้มค่าอีกต่อไป โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูล (Data) ถูกให้ความสำคัญไม่ต่างจาก ‘น้ำมัน’ ที่มีมูลค่าในตลาดโลกอย่างมหาศาล นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมคุณจึงควรมีเครื่องมือที่จะช่วยให้จัดการข้อมูลเหล่านั้น ให้สามารถส่งโฆษณาแบบ 1:1 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยเหตุนี้ Customer Data Platform (CDP) จึงกลายเป็นเครื่องมือทำการตลาดยุคใหม่ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยจัดการข้อมูล (Data) ดังกล่าว เพราะทำให้เจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาดสามารถวางแผนกลยุทธ์การส่งโฆษณาให้กลุ่มเป้าหมายได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ และคุ้มค่ามากขึ้น นอกจากนี้ CDP ยังสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ที่นักการตลาดต้องเจอ ซึ่งทาง sniper เคยเขียนไว้ในบทความ ‘CDP เครื่องมือทำการตลาดใหม่ในยุคดิจิทัล’ เช่นกัน
CDP คืออะไร?
หากคุณเคยติดตามบทความเกี่ยวกับ CDP จาก sniper ก่อนหน้านี้ เช่น ‘ธุรกิจคุณต้องเริ่มใช้ CDP ตั้งแต่เมื่อไหร่?’ ก็อาจทราบความหมายของ CDP มาบ้างแล้ว ซึ่ง sniper ได้ให้ความหมายของ CDP ไว้ดังนี้
“CDP (Customer Data Platform) คือ เครื่องมือทางการตลาดที่รวบรวมข้อมูลลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ ไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ข้อมูลและทำให้เข้าใจถึงพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า (Consumer Behavior) ได้อย่างครอบคลุมในทุกมิติ ทำให้นักการตลาดสามารถจัดกลุ่มลูกค้า (Customer Segmentation) เพื่อต่อยอดในการพัฒนากลยุทธ์และวางแผนการทำการตลาดกลับไปให้ลูกค้าแต่ละคน (Personalized Marketing) ได้อย่างแม่นยำ เหมาะสม และคุ้มค่ามากที่สุด”
CDP มีขั้นตอนการทำงานอย่างไร?
sniper แบ่งการทำงานของ CDP ออกเป็น 5 ขั้นตอน ดังนี้
1. รวบรวมข้อมูลลูกค้า
CDP จะเชื่อมต่อข้อมูลลูกค้า 1 คนจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ (First-Party Data, Second-Party Data และ Third-Party Data) ไว้ในที่เดียว เพื่อให้สามารถเข้าใจลูกค้าได้มากที่สุดในทุกมิติ
2. สร้างภาพรวมของลูกค้า
CDP จะนำข้อมูลที่รวบรวมจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ของลูกค้า มาสร้างภาพรวมของลูกค้า 1 คนแบบ 360 องศา ซึ่งจะประกอบไปด้วย ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า ประวัติการซื้อสินค้า และพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ เป็นต้น
3. วิเคราะห์และแสดงผลข้อมูล
CDP จะวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจากภาพรวมดังกล่าว เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับลูกค้า ซึ่งจะแสดงผลลัพธ์ที่ได้เป็นภาพ รายงาน ตาราง หรืออื่น ๆ และจัดการข้อมูลดังกล่าวให้ง่ายต่อการตัดสินใจนำไปใช้ทำการตลาดได้อย่างเหมาะสม
4. อัปเดตข้อมูล
CDP จะรักษาข้อมูลลูกค้า และอัปเดตข้อมูลลูกค้าแบบอัตโนมัติเพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา ทำให้ทราบถึงความต้องการของลูกค้าที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาได้อย่างทันท่วงที
5. การนำข้อมูลไปใช้
CDP จะนำข้อมูลที่มีอยู่แล้ว รวมถึงข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ไปใช้ในการสร้างแผนกลยุทธ์การทำการตลาด ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าผ่านการส่งโฆษณา แคมเปญ หรือโปรโมชันแบบ 1:1 ได้อย่างแม่นยำ และมีประสิทธิภาพ
แล้ว CDP จะช่วยให้คุณส่งโฆษณาแบบ 1:1 ได้อย่างไร?
CDP เป็นเครื่องมือ Marketing Automation ที่สามารถช่วยให้คุณส่งโฆษณาแบบ 1:1 ได้ โดยการรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ มาวิเคราะห์ให้เข้าใจถึงพฤติกรรมการบริโภคและความต้องการของลูกค้าแต่ละคนในทุกมิติ ทำให้สามารถทำตลาดโดยการส่งโฆษณาได้แบบ 1:1 หรือ Personailize Marketing ได้อย่างตรงใจลูกค้ามากขึ้น รวมทั้งลดต้นทุนการทำการตลาด และเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นด้วยการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า โดยการส่งแคมเปญ โปรโมชัน หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ เพื่อรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่ และต่อยอดให้เกิดการซื้อซ้ำในอนาคตอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด
นอกจากนี้ CDP ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้เจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาดสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึม (Algorithm) ของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงหรือการมองเห็นของผู้ใช้งานอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
หากคุณสนใจตัวช่วยในการส่งโฆษณาแบบ 1:1 ได้อย่างแม่นยำ สามารถติดต่อ sniper เพื่อรับคำปรึกษา นัดหมายพูดคุยในการวางแผนการใช้กลยุทธ์ทำการตลาดที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณตั้งแต่ก้าวแรก ด้วยเครื่องมือทำการตลาดอัจฉริยะ “SNIPER CDP” ได้ที่เว็บไซต์ https://sniper.tech/sniper-cdp/ หรือไลน์แอด @snipertech หรือโทรติดต่อ 093-498-2446